สัตว์หางและร่างสถิต


สัตว์หางและร่างสถิต
สัตว์หาง
     ปีศาจที่ถูกสร้างขึ้นตามตำนานปรัมปราจากเรื่องนารูโตะ โดยใช้ตำนานของประเทศญี่ปุ่นมาเป็นต้นแบบ ซึ่งในเรื่องนารูโตะนั้นมีความแตกต่างจากตำนานดั้งเดิมเกี่ยวกับสัตว์หางอยู่มาก เช่นโดยทั่วไปคนญี่ปุ่นมักพูดซึง ฮัจจิบิในฐานะ งู ตามเรื่องเล่าในศาสนาชินโต แต่ในการ์ตูนถูกดัดแปลงเป็นปิศาจวัวที่มีครึ่งล่างเป็นปลาหมึกแทน

จุดกำเนิด
     หกเซียนเต๋าได้ปกป้องโลกเอาไว้จากปีศาจตนหนึ่งซึ่งมี 10 หาง หกเซียนเต๋าได้ทำการใช้วิชาผนึกและแยกร่างของ 10 หางออกไปตามลำดับพลังตั้งแต่ 1 หางไปจนถึง 9 หาง ส่วนผนึกสุดท้านนั้นคือพระจันทร์ที่เป็นส่วนสุดท้ายหากนำสัตว์หางทั้งหมด รวมตัวกับดวงจันทราจะคลายผนึกของสัตว์10 หางได้ หกเซียนเต๋าได้แยกตัวของสิบหาง ทำให้มันกระจายตัวออกไป ตามผนึก 9 ทิศและสลักผนึกไว้ที่หินจันทรา เพื่อปก ป้องโลกจากสิบหาง หกเซียนเต๋าจึงสร้างวิชานินจาอย่างหนึ่งขึ้นมานั้นคือคาถาผนึกสัตว์หาง และเพื่อผนึกสิบหางด้วยวิชานี้หกเซียนเต๋าจึงเอาตัวเองผนึกสิบหางหรือก็คือ หกเซียนเต๋านั้นก็คือพลังสถิตย์ร่างของสิบหาง ด้วยเหตุนี้ก็เลยทำให้ผู้คนต่างยกย่องหกเซียนเต๋า แต่หกเซียนเต๋าก็ยังห่วงว่าหากตัวเองตายไปสิบหางก็จะคลายผนึกอีกครั้ง ด้วยเหตุนี้หกเซียนเต๋าจึงใช้พลังของตนเองแบ่งจักระของสิบหางออกเป็น 9 ส่วนและปล่อยกระจายไปยังที่ต่างๆ ส่วนร่างจริงของสิบหางที่ถูกแบ่งจักระออกไปแล้วก็ถูกเอาขึ้นไปบนฟ้าจนกลาย เป็นดวงจันทร์ ด้วยพลังที่หลงเหลือของจิตของ 10 หางนั้นยังคาอยู่ในตัวผนึกสัตว์หางทุกตัวโดยมากน้อยไม่เท่ากัน

การควบคุมและการฝึกฝน
     วิชาที่ใช้ในการผนึกนั้นมีหลายแบบโดยมีต้นแบบในรูปแบบของผนึกจันทราเป็นต้นแบบ

รูปแบบการผนึกสัตว์หาง
     วิธีต้นแบบของการผนึกคือการซ้อนทับวิญญาณสัตว์หางลงในวิญญาณของมนุษย์และสะกดด้วยจักระของเจ้าของ หรือ ใส่ลงไปในตัวของสัตว์หางด้วยจักระของผู้รับผนึก

ศาสตร์การรวบรวมวิญญาณสัตว์หาง
     โดยตั้งแต่ตอนที่กลุ่มแสงอุษาได้เริ่มรวมตัวเพื่อรวบรวมสัตว์หางลงใน ไรบิ เทพเจ้าสูงสุดผู้มีดวงตาดุจพลังเทพทั้งหมด 9 ดวงตาโดยการดึงสัตว์หางหลับออกจากร่างสถิตจะทำให้ร่างสถิตถูกดึงวิญญาณและพลังชีวิตออกไป ต้องสูญเสียชีวิตในที่สุด โดยในปัจจุบันสัตว์หางเกือบทั้งหมดถูกแย่งชิงและอยู่ในการครอบครองของกลุ่มแสงอุษา

รายนามสัตว์หาง


อิจิบิ โนะ ชูคาคุ
(一尾の守鶴, Ichibi No Shukaku)

     : 1 หาง หรือ ซูคาคุ  มีร่างสถิตคือ  กาอาระ ปัจจุบันถูกแสงอุษาสะกดแล้ว แต่ยังไม่เสียชีวิต
     : พลังธรรมชาติ ลม ดิน แม่เหล็ก
   รูปแบบ         มีอีกชื่อหนึ่งว่าภูตทราย มีความสามารถในการควบคุมทราย มีปริมาณจักระอยู่ในลำดับที่ 9 เป็นเจ้าแห่งทะเลทราย ในบรรดาสัตว์หางเชี่ยวชาญพวกคาถาสะกดเป็นที่สุด ก่อนหน้าที่จะถูกแสงอุษาแย่งชิงไปเคยสถิตอยู่ในร่างของ กาอาระ



นิบิ โนะ เนโกะมาตะ
(ニ尾の猫俣, Nibi no Nekomata)

     : 2 หาง หรือ มาทาทาบิ มีร่างสถิตคือ นิอิ ยูกิโตะ แห่งหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ ปัจจุบันถูกแสงอุษาสะกดแล้วและเสียชีวิตแล้ว
     : พลังธรรมชาติไฟ
   รูปแบบ         สัตว์หางเจ้าแห่งวิญญาณ รูปแบบแมว มี 2 หาง พลังโจมตีแบบไฟกับโจมตีในที่มืด จักระอยู่อันดับ 8

ถูกจับโดย คาคุซึและฮิดัน 



ซานบิ โนะ อิโซนาเดะ
(三尾, Sanbi)

     : 3 หาง หรือ อิโซบุ มีร่างสถิตคือ   มิซึคาเงะรุ่น ที่ 4 หมู่บ้านคิริงาคุเระ ท่านคาราตาชิ ยางุระ ปัจจุบันถูกแสงอุษาสะกดแล้วและเสียชีวิต
     : พลังธรรมชาติน้ำ หยิน
   รูปแบบ         สัตว์สามหาง ปีศาจหอยมีเกาะเป็นกระดองเต่าและหอยเม่น มีพลังในการควบคุมพื้นน้ำและสร้างม่านพิษ จักระอยู่อันดับ 7 กับมีเกราะป้องกันกับเน้นสู้แบบในน้ำเป็นหลัก

ถูกจับโดย โทบิและเดอิดาระ




ยอนบิ โนะ โซโค
(四尾, Yonbi)

     : 4 หาง หรือ ซุนโกคู มีร่างสถิตคือ โรชิแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระ ปัจจุบันถูกแสงอุษาสะกดแล้ว และเสียชีวิต
     : พลังธรรมชาติดิน ไฟ ลาวา
   รูปแบบ         ในเรื่องมีรูปร่างเป็นกอริลายักษ์สี่หางสีแดง โรชิได้ออกเดินทางเที่ยวทั่วโลกเพื่อแสวงหาพลังที่แท้จริงของตนเอง เป็นสัตว์หางที่ร้อนแรงที่สุด จักระอยู่อันดับ 6
ถูกจับโดย อิทาจิและคิซาเมะ



โกบิ โนะ โฮโก
(五尾, gobi)]

     : 5 หาง หรือ โคคุโอ มีร่างสถิตคือ  ฮานแห่งหมู่บ้านอิวะงาคุเระ ปัจจุบันถูกแสงอุษาสะกดแล้ว และเสียชีวิต
     : พลังธรรมชาติน้ำ ไฟ เดือดพล่าน
   รูปแบบ         ม้าที่มีเขาขนาดเล็กเป็นเทพแห่งการสร้างภาพลวงตาและมีความสามารถในการใช้พฤกษาในการต่อสู้ จักระอยู่อันดับ 5


โรคุบิ โนะ ไรจู
(六尾, rokubi)

     : 6 หาง หรือ ไซเคน มีร่างสถิตคือ  อูทาคาตะ แห่งหมู่บ้านคิริงาคุเระ ปัจจุบันถูกสะกดแล้ว และเสียชีวิต
     : พลังธรรมชาติน้ำ
   รูปแบบ         ตัวทากยักษ์ที่มีแขนขา สามารถดำดินและดึงพลังธรรมชาติมาใช้ในการลอกตัวและเดินกลางอากาศจากฟองอากาศ รวมทั้งมีความสามารถในการดูดจักระของผู้ที่ต่อสู้ด้วย จักระอยู่อันดับที่ 4
ผู้จับกุม เพน6วิธีและโคนัน



ชิจิบิ โนะ คาคุ
(七尾, shichibi)

     : 7 หาง หรือ โจวเมย์ มีร่างสถิตคือ ฟู แห่งหมู่บ้านทากิงาคุเระ ปัจจุบันถูกสะกดแล้ว และเสียชีวิต
     : พลังธรรมชาติ ไม่ทราบ
   รูปแบบ         สัตว์หางรูปร่างด้วงกว่างญี่ปุ่น มีเกราะเป็นเหล็ก ผลิตพิษและควบคุมลมฟ้าอากาศ เน้นสู้กลางอากาศที่สุด จักระอยู่อันดับ 3
ผู้จับกุม คาคุซึและฮิดัน



ฮัจจิบิ โนะ ยามาตะ
(八尾, Hachibi)

     : 8 หาง หรือ กิวคิ มีร่างสถิตคือ     คิลเลอร์ บี แห่งหมู่บ้านคุโมะงาคุเระ ตราสถิตไหมรกต ปัจจุบันถูกแสงอุษาสะกดครึ่งหนึ่ง แต่หลบหนีไปแล้ว
     : พลังธรรมชาติหยาง น้ำ
   รูปแบบ         อสูรวัวหางปลาหมึก ตามตำนานญี่ปุ่นมีอีกชื่อว่า ยามาตะ โนะ โอโรจิมารุ (แปลว่า งูขาว) ซึ่งเป็นงูที่มีแปดหัวแปดหาง แตกต่างจากในเรื่องนินจาคาถาโอ้โฮเฮะ ยามาตะเป็นผู้ที่พลังในการทำลายและสามารถควบคุมได้ง่ายที่สุด


คิวบิ โนะ โยโค
(九尾の妖狐, Kyuubi)

     : 9 หาง หรือ คุรามะ มีร่างสถิตคือ
-          อุซึมากิ มิโตะ (ภรรยาโฮคาเงะรุ่นที่1) ปัจจุบันเสียชีวิต
-          อุซึมากิ คุชินะ (ภรรยาโฮคาเงะรุ่นที่4) ปัจจุบันเสียชีวิต
-          นามิคาเสะ มินาโตะ (โฮคาเงะรุ่นที่ 4) กับได้แค่ส่วนหยิน ปัจจุบันเสียชีวิต
-          โทบิ (อุจิวะ โอบิโตะ) ได้ส่วนหยิน และได้คืนให้นารูโตะในมังงะตอนที่ 664 ปัจจุบันได้สลายในโลกของคางูยะแล้ว
-          อุซึมากิ นารุโตะ (โฮคาเงะรุ่นที่7 / ลูกชายของโฮคาเงะรุ่นที่4และคุชินะ) กับได้แค่ส่วนหยาง แต่ในมังงะตอนที่ 699 ได้ทั้ง 2 ส่วนกลับมารวมกันอีกครั้ง

     : พลังธรรมชาติไฟ ลม หยาง
   รูปแบบ         สัตว์หางรูปแบบจิ้งจอก มีความเชื่อกันว่ามีพลังมากที่สุดในบรรดาสัตว์หาง หมายถึงปริมาณจักระและระดับของวิชาคาถาอยู่ในระดับสูงสุด (ร่างครึ่งหนึ่งของคุรามะมีพลังมากกว่า กิวคิ)


โจบิ
(十尾 Jūbi)

     : 10 หาง หรือ โจบิ   ร่างสถิตคือ    ในอดีตร่างสถิตของสิบหางคนแรกก็คือเซียนหกวิถี ในสงครามโลกนินจาครั้งที่ 4 พลังสถิตร่างคนที่ 2 คือ อุจิวะ โอบิโตะ และคนที่ 3 คือ อุจิวะ มาดาระ
     : พลังธรรมชาติดิน น้ำ ลม ไฟ หยิน หยาง สายฟ้า ไม้
   รูปแบบ         พระจันทร์และหินจันทรา (ผนึกสะกดมนตรา เซียนหกวิถี)
นำสัตว์หางทั้งหมดนำมารวมกับเทวรูปมารนอกรีต และสั่งการด้วยพระจันทร์ ด้วยเนตรจันทรานิรันดร์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น